
เพลงงานแต่ง เพลงรักความหมายดี ยอดนิยมตลอดกาล
การมีเสียงเพลงคลอเบาๆ ในงานแต่งงาน เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพราะบทเพลงและจังหวะดนตรีที่ไพเราะ สามารถสร้างบรรยากาศที่โรแมนติกและทำให้ผู้ฟังรู้สึกเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี เพลงงานแต่ง ที่นิยมนำมาใช้ในงานแต่ง ก็มีหลากหลายแนวหลายสไตล์ ทั้งเพลงไทยหวานซึ้งและเพลงสากลความหมายดีๆ โดยส่วนใหญ่จะนิยมเป็นเพลงรักมากที่สุด
เพลงงานแต่งยอดนิยม ตลอดกาล
1. A lover’s concerto – Kelly Chen
เพลงงานแต่งเพราะๆ จังหวะช้าๆ ฟังเพลิน ให้ความรู้สึกที่ซึ้งกินใจ เหมาะกับการนำมาใช้ในงานแต่งงาน โดยเฉพาะงานแต่งที่ตกแต่งด้วยธีมแบบเรียบหรูหรือเน้นธรรมชาติ
2. ฉันดีใจที่มีเธอ – บอย โกสิยพงศ์
เพลงรักที่สื่อความหมายได้ดี กับเนื้อร้องและท่วงทำนองที่หวานซึ้ง ไม่ว่าฟังกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ และเหมาะที่จะนำมาใช้เป็นเพลงที่เจ้าบ่าวต้องร้องให้เจ้าสาวฟัง
3. Lucky – Glee version
เพลงจังหวะสนุกๆ กับเสียงร้องผู้ชายและผู้หญิงผสมผสานกัน และด้วยเสียงร้องที่ฟังนุ่มหู จึงทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นได้เป็นอย่างดี
4. ทราย – วัชราวลี
บทเพลงเนื้อหาดี ที่สามารถส่งผ่านความรู้สึกถึงกัน ระหว่างเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้อย่างโรแมนติกและซาบซึ้ง โดยเพลงนี้จะนิยมใช้เปิดในช่วงการเปิดตัวคู่บ่าวสาว
5. คู่ชีวิต – Cocktails
อีกหนึ่งเพลงเพราะที่นิยมนำมาเปิดในงานแต่งงาน ด้วยถ้อยคำบอกรักในเนื้อเพลง ดั่งคำสัญญาว่าเธอจะเป็นเพียงคนเดียวตลอดไป แค่ฟังก็ให้ความรู้สึกซึ้งกินใจจนน้ำตาแทบไหล แถมยังทำให้บรรยากาศในงานอบอวลไปด้วยความรัก
6. I wanna grow old with you – Westlife
บทเพลงเพราะๆ ที่ให้ความรู้สึกเพลิดเพลิน สามารถสร้างความรู้สึกสุดซึ้งในงานแต่งได้ดี เหมาะกับการเปิดในช่วงกำลังจุดเทียนหรือตอนตัดเค้กมาก
7. เรื่องมหัศจรรย์ – Sofa
เพลจังหวะสนุกๆ ฟังสบาย สามารถเรียกรอยยิ้มจากแขกที่มาร่วมงานได้เป็นอย่างดี และมีความหมายที่สื่อถึงคู่บ่าวสาวได้ดี
8. โปรดส่งใครมารักฉันที – Instinct
เพลงที่ฟังแล้วให้ความรู้สึกแบบน่ารักมาก แถมความหมายดี ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งเพลงที่เหมาะกับการนำมาใช้ในงานแต่งงาน และเป็นเพลงงานแต่งที่ฮิตตลอดกาล
9. Marry you – Bruno Mars
สำหรับเพลงนี้เหมาะกับการเปิดในช่วงที่เจ้าสาวกำลังโยนดอกไม้ เพราะมีท่วงทำนองที่สนุกสนาน ออกแนวขี้เล่นนิดๆ ชวนให้เกิดความรู้สึกเร้าใจและตื่นเต้นได้ดี
10. รักคุณเข้าอีกแล้ว – ป๊อด โมเดิร์นด็อก
อีกหนึ่ง เพลงงานแต่ง นิยมตลอดกาล ไม่ว่าฟังกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ เป็นเพลงที่ช่วยเติมความหวานน้อยๆ ให้กับคู่บ่าวสาวได้ดี ได้ฟังเมื่อไหร่ก็เรียกรอยยิ้มได้เสมอ
11. คำตอบของหัวใจ – Potato
เพลงซึ้งๆ จังหวะสนุกๆ ที่จะช่วยสร้างสีสันให้กับบรรยากาศในงานแต่งได้เป็นอย่างดี และเหมาะเป็นเพลงที่เจ้าบ่าวต้องร้องให้เจ้าสาวฟัง
12. Best in me – Blue
สำหรับเพลงนี้ก็มีจังหวะที่ฟังเพลิดเพลินไม่น้อย หรือหากเจ้าบ่าวสามารถร้องเพลงนี้ได้ ก็เหมาะที่จะนำมาร้องเพื่อเซอร์ไพรซ์เจ้าสาว รับรองหวานซึ้งทั้งงาน
13. เธอทั้งนั้น – Groove Rider
เพลงความหมายดีๆ ที่เนื้อเพลงจะพรรณนาถึงฝ่ายหญิงได้อย่างสุดซึ้ง สามารถนำมาเปิดในช่วงจัดเลี้ยง หรือช่วงเปิดตัวคู่บ่าวสาว
14. I know I love you – Savage Garden
บทเพลงที่เต็มไปด้วยความหมายและความทรงจำดีๆ ไม่ว่ายุคไหนก็ยังคงได้รับความนิยมตลอดกาล สามารถเปิดฟังได้ทุกช่วงเวลา
15. ร่มสีเทา – วัชราวลี
เพลงเพราะ ที่ให้ความหมายถึงการตามหาคนที่ใช่ และในที่สุดก็ได้เจอ เป็นอีกหนึ่งเพลงที่สามารถเรียกรอยยิ้มได้ดี และเข้ากับคอนเซ็ปงาน
16. New Thang – Redfoo
เมื่อถึงช่วงเปิดฟลอแดนซ์ต้องเพลงนี้ เพลงที่เต็มไปด้วยจังหวะสนุก มันส์ๆ และให้ความรู้สึกอยากเต้นทันทีที่ได้ฟัง แถมฟังกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ
17. Good boy – Big Bang
อีกหนึ่งเพลงแดนซ์จังหวะมันส์ๆ วันดีๆ แบบนี้ต้องลุกขึ้นมาเต้นกันหน่อย ซึ่งก็เป็นเพลงที่สามารถสร้างความสนุกและความเร้าใจได้ดี แต่เหมาะกับการเปิดในช่วงแดนซ์อย่างเดียว นอกจากว่าเป็นงานแต่งสไตล์ปาร์ตี้ สนุกสนานไม่เน้นพิธีการ หรืองานที่มีการจัดเลี้ยงประเภทค็อกเทลและบุฟเฟต์
18. ยิ่งรู้จักยิ่งรักเธอ – ดา เอ็นโดฟิน
ยิ่งได้รู้จัก ก็ยิ่งรักเธอ เป็นเพลงที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกระหว่างเจ้าบ่าวเจ้าสาว ส่งผ่านไปยังแขกที่มาร่วมงานได้เป็นอย่างดี อาจจะเปิดเป็นเพลงฟังเพลินๆ ในขณะจัดเลี้ยง หรือใช้เป็นเพลงที่เจ้าสาวต้องร้องให้เจ้าบ่าวและแขกฟัง
19. Give me everything – Pitbull
เพลงนี้ก็เหมาะจะนำมาเปิดฟังในช่วงเปิดฟลอแดนซ์ เป็นเพลงที่มีจังหวะสนุก สามารถเรียกความสนใจจากแขกได้ดี
20. มากกว่ารัก – โรส ศิรินทิพย์
บทเพลงเพราะๆ ที่บอกได้คำเดียวว่า เธอเป็นมากกว่ารัก และเป็นคนที่ตามหามานานแสนนาน ส่งผ่านความรู้สึกดีๆ ผ่านเนื้อเพลงได้อย่างลึกซึ้ง
เพลงงานแต่ง เหล่านี้ล้วนเป็นเพลงที่มีความหมายดีๆ เนื้อร้องและท่วงทำนองหวานซึ้ง เข้ากับบรรยากาศในงานแต่งงานได้ดี ซึ่งก็เป็นเพลงที่มีความอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมาก สำหรับคู่บ่าวสาวที่กำลังมองหาบทเพลงดีๆ ที่จะนำมาเปิดเพื่อสร้างความโรแมนติกในงานแต่ง บทเพลงเหล่านี้ก็ล้วนเป็นตัวเลือกที่จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการได้ดีไม่น้อย
การเลือกประเภทวงดนตรีงานแต่ง ให้เหมาะสม
การจัดงานแต่งงาน วงดนตรีงานแต่ง เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มักจะขาดไม่ได้ เพราะจะช่วยสร้างบรรยากาศโรแมนติก และทำให้แขกที่มาร่วมงาน รู้สึกเพลิดเพลิน มีความสุขมากขึ้น โดยการเลือกวงดนตรีที่จะนำมาสร้างสีสันให้กับงานแต่ง ควรเลือกให้เข้ากับบรรยากาศและสไตล์ในการจัดตกแต่ง รวมถึงเนื้อเพลงที่นำมาใช้ ก็ควรเป็นเพลงงานแต่งหวานๆ ซึ้งๆ มีจังหวะสนุก ไม่เคร่งเครียด สำหรับประเภทของ วงดนตรีงานแต่ง ที่นิยมนำมาใช้ในการจัดงานแต่งงาน ได้แก่

วงดนตรีสตริง
เป็นประเภทวงดนตรีงานแต่ง ที่จะเล่นเพลงงานแต่งจังหวะสนุกๆ หรือซึ้งกินใจ ตามสมัยนิยม เพลงส่วนใหญ่จะเป็นเพลงสตริงทั้งแบบเนื้อร้องไทยและสากล สามารถสร้างความสนุกสนานและโดนใจวัยรุ่นมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว โดยวงดนตรีประเภทนี้ นิยมนำมาเล่นในช่วงของการจัดเลี้ยงแขก ซึ่งเป็นช่วงของการสังสรรค์แล้ว และเหมาะกับงานแต่งที่จัดธีมแต่งงานแบบทันสมัย ออกแนวปาร์ตี้หรือผับ
รูปแบบวงดนตรี: นิยมจัดแบบ 5 คนขึ้นไป โดยมีเครื่องดนตรีที่ใช้ คือ กีต้าร์+กลองชุด+เบส+คีย์บอร์ด+นักร้อง 1-2 คน
วงดนตรีแจ๊ส
เป็นประเภทวงดนตรี ที่เน้นจังหวะสนุกๆ แต่ไม่เสียงดัง สามารถสร้างสีสันและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาให้กับงานแต่งงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็มีทั้งแบบที่มีนักร้องและไม่มีนักร้อง จังหวะเพลงส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เสียงแซ็กโซโฟน ad-lib และมีจังหวะบีทรวมอยู่ ทำให้บทเพลงมีการผสมผสานกันอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกเพลิดเพลินและดึงดูดความสนใจจากผู้ฟังได้อย่างดีเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งวงดนตรี ที่เหมาะจะนำมาเล่นในงานแต่งงานมาก
รูปแบบวงดนตรี: นิยมจัดแบบ 4 คนขึ้นไป และมีรูปแบบการนำเครื่องดนตรีมาใช้
- วงดนตรีที่ไม่มีนักร้อง ใช้เครื่องดนตรี เปียโน+ดับเบิลเบส+กลองชุด+แซ็กโซโฟน
- วงดนตรีที่มีนักร้อง ใช้เครื่องดนตรี เปียโน+ดับเบิลเบส+กลองชุด+แซ็กโซโฟน+กีต้าร์พร้อมนักร้อง
วงดนตรีคลาสสิค
เป็นประเภทวงดนตรีงานแต่ง ที่นิยมนำมาเล่นในงานแต่งงานที่จัดธีมงานแต่งในสไตล์เรียบหรู คลาสสิค โดยเฉพาะการจัดพิธีแต่งงานแบบชาวคริสต์ แต่สำหรับการจัดงานแต่งแบบไทย ก็สามารถใช้วงดนตรีประเภทนี้ได้เหมือนกัน ซึ่งเพลงที่นิยมนำมาบรรเลงในงานแต่ง ก็จะเป็นแนวเพลงไทยอมตะสุนทราภรณ์ และเพลงป๊อปสากลอมตะ ที่มีท่วงทำนองและการบรรเลงได้อย่างไพเราะ ฟังเพลิดเพลิน ไม่ทำให้แขกที่มาร่วมงานรู้สึกเบื่อ
รูปแบบวงดนตรี: นิยมจัดแบบ 3-4 คนขึ้นไป โดยมีรูปแบบการนำเครื่องดนตรีมาใช้
- ไวโอลิน+วิโอลา+ดับเบิลเบส +เซลโล
- ไวโอลิน 2 ตัว+เซลโล+วิโอลา+ดับเบิลเบส
- ไวโอลิน+คลาลิเนท+เปียโน+วิโอลา+ดับเบิลเบส
วงดนตรีป๊อป
วงดนตรีป๊อป เป็นวงดนตรีที่เหมาะกับการนำมาเล่นในงานแต่งงานมาก เพราะมีเนื้อร้องและท่วงทำนองแบบฟังสบายๆ ให้บรรยากาศที่โรแมนติกและอบอวลไปด้วยความรัก ซึ่งจะทำให้รู้สึกเพลิดเพลินและเคลิ้มไปกับบรรยากาศในงานได้เป็นอย่างดี สำหรับเครื่องดนตรีที่ใช้ ก็จะเป็นเครื่องดนตรีแบบออร์เคสตรา ที่จะช่วยสร้างความคลาส ให้งานมีความเก๋และดูน่าสนใจยิ่งขึ้น เพลงที่นิยมนำมาเล่นส่วนใหญ่ ก็จะเป็นเพลงไทย เพลงสากล จีนอมตะ เพลงลุกกรุงและ เพลงไทยเก่า รวมถึงเพลป๊อปสมัยใหม่ ซึ่งสามารถเอาใจแขกทุกช่วงวัยได้เป็นอย่างดี
รูปแบบวงดนตรี: นิยมจัดแบบวงทรีโอ 3-4 คนขึ้นไป สามารถแสดงได้อย่างเพอร์เฟ็กต์ และเรียกจุดสนใจได้ดีพอสมควร โดยมีรูปแบบการนำเครื่องดนตรีมาใช้
- เปียโน+ไวโอลิน+ดับเบิลเบส
- เปียโน+ไวโอลิน+ดับเบิลเบส+ฟรุ้ท
- เปียโน+ไวโอลิน+ดับเบิลเบส+แซ็กโซโฟน+กลองชุด/นักร้อง
- เปียโน+ไวโอลิน+ดับเบิลเบส+แซ็กโซโฟน+กลองชุด+นักร้อง
วงดนตรีออร์เคสตร้า
เป็นวงดนตรี ที่เหมาะกับการนำมาเล่นในงานแต่งงานที่จัดขึ้นอย่างหรูหราอลังการ และมีความยิ่งใหญ่ ส่วนมากจะเป็นงานแต่งของผู้ที่มีฐานะร่ำรวยและเหล่าดารานางแบบ โดยท่วงทำนองและเสียงเครื่องดนตรีจะผสมผสานกันอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกเพลิดเพลินและสัมผัสได้ถึงความเลิศหรู ส่วนใหญ่จะไม่มีเสียงร้อง มีเพียงเสียงดนตรีที่ดังกึกก้องไปทั่วทั้งงานอย่างไพเราะ
รูปแบบวงดนตรี : การเล่นดนตรีแบบนี้ จะใช้นักดนตรีหลายคน ซึ่งจะเล่นครบเซ็ท ทั้งเครื่องดีด สี ตี เป่า พร้อมด้วยคอนดักเตอร์ จึงทำให้การแสดงออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นที่น่าจับตามอง สามารถเรียกความสนใจจากแขกที่มาร่วมงานได้อย่างดีเยี่ยม
วงดนตรีงานแต่ง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานแต่งงาน ซึ่งวงดนตรีที่นิยมนำมาเล่นในงานแต่งก็มีหลายประเภท ดังนั้นจึงควรเลือกประเภทของวงดนตรีให้เหมาะกับสไตล์งานแต่งของตัวเอง นอกจากนี้จะต้องพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัยก่อนตัดสินใจเลือก เช่น ความเป็นมืออาชีพของนักดนตรีและนักร้อง งบประมาณ จำนวนแขกที่มาร่วมงานแต่ง ช่วงอายุของแขกเหมาะกับการฟังดนตรีแนวไหน และขนาดของห้องจัดเลี้ยงหรือสถานที่ สามารถรองรับวงดนตรีแบบไหนได้บ้าง เพื่อให้ได้วงดนตรีที่มีความสมบูรณ์แบบเหมาะกับภาพรวมของงานแต่ง และที่สำคัญก่อนตัดสินใจจ้างวงดนตรี ควรตกลงเรื่องราคาให้เรียบร้อยก่อนเสมอ
เรื่องที่บ่าวสาวควรบอกกับนักดนตรี ก่อนเริ่มงานแต่ง
เมื่อจ้างนักดนตรีมาสร้างสีสันและความสนุกให้กับงานแต่ง นอกจากเลือกวงดนตรีให้เหมาะสมกับงาน คู่บ่าวสาวก็ควรบอกรายละเอียดอื่นๆ ให้นักดนตรีได้ทราบ เพื่อจะได้บรรเลงเพลงไปตามลำดับขั้นตอนได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีสิ่งที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องบอกกับนักดนตรีก่อนเริ่มงานดังนี้

วันที่และสถานที่สำหรับจัดงาน
เมื่อทำการจองคิวนักดนตรี ควรแจ้งวันเวลาและสถานที่สำหรับจัดงานแต่งให้พร้อม เพื่อที่นักดนตรีจะได้เตรียมตัวได้ทันและไม่ยุ่งยากกับการเดินทางไปยังสถานที่จัดงานแต่งเมื่อถึงวันงานจริงๆ
บอกคอนเซ็ปต์งาน
ควรอธิบายคอนเซ็ปต์งานแบบคร่าวๆ เพราะจะทำให้นักดนตรีสามารถวางแผนการเล่นดนตรีได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น รวมถึงสสามารถเลือกชุดได้เข้ากับบรรยากาศในงาน แต่หากต้องการให้นักดนตรีแต่งตัวด้วยชุดแบบไหนมากเป็นพิเศษ ก็ควรแจ้งไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
ตารางกำหนดการ
ตารางกำหนดการเป็นอีกสิ่งสำคัญที่คู่บ่าวสาวควรบอกกับนักดนตรี โดยอาจกำหนดว่าให้นักดนตรีเล่นดนตรีในช่วงไหนบ้างและเน้นจังหวะหรือแนวเพลงอย่างไรในช่วงนั้นๆ รวมถึงจะมีการคั่นด้วยพิธีใดบ้าง เพื่อที่นักดนตรีจะได้ส่งต่อไปยังลำดับขั้นตอนต่อไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ
รายชื่อเพลงงานแต่งในช่วงต่างๆ
หากต้องการกำหนดรายชื่อเพลงด้วยตัวเอง ให้ลิสต์รายชื่อให้เรียบร้อย โดยแบ่งออกเป็นช่วงพิธีการต่างๆ ว่าช่วงไหนจะใช้เพลงอะไรบ้าง เช่น ช่วงพิธีการ ช่วงตัดเค้ก ช่วงเต้นรำและช่วงโยนดอกไม้ เป็นต้น ซึ่งควรส่งรายชื่อเพลงให้ก่อนวันงานอย่างน้อย 2-3 เดือน เพื่อที่นักดนตรีจะได้เตรียมฝึกซ้อมเพลงเหล่านั้น และไม่เกิดความผิดพลาดเมื่อขึ้นแสดงจริง
สไตล์เพลงงานแต่งที่อยากได้
สำหรับใครที่ไม่ต้องการกำหนดรายชื่อเพลงด้วยตนเอง อาจบอกเป็นสไตล์เพลงที่อยากฟังแทน เช่น เพลงลูกทุ่ง สตริง เพื่อชีวิต เพลงป๊อบ-แจ๊ส เป็นต้น เพราะอย่างน้อยนักดนตรีก็จะได้เตรียมบทเพลงที่เหมาะกับสไตล์ที่คู่บ่าวสาวชอบ และสามารถบรรเลงบทเพลงสร้างความสนุกสนานในงานแต่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ช่วงเวลาในการทำ Sound check
ช่วงเวลาในการทำ Sound cheak คือช่วงที่นักดนตรีจะต้องเข้าไปเตรียมเครื่องดนตรีให้พร้อมและเช็คเครื่องเสียงก่อนเริ่มแสดงจริง ซึ่งคู่บ่าวสาวควรกำหนดช่วงเวลาดังกล่าวและแจ้งแก่นักดนตรีอย่างชัดเจน โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนเริ่มงาน เช่น เริ่มงานเวลา 18:00 น. กำหนดให้ทำ Sound cheak ได้ตั้งแต่เวลา 16:00-18:00 น. แต่หากต้องเตรียมพื้นที่และเครื่องดนตรีหลายอย่าง เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็อาจเพิ่มเวลาให้กับนักดนตรีอีกเล็กน้อย โดยอาจถามจากนักดนตรีโดยตรงว่าต้องใช้เวลามากน้อยแค่ไหน
เบอร์โทรของบุคคลที่ติดต่อได้สะดวก
ควรให้เบอร์โทรของบุคคลที่ติดต่อได้สะดวกแก่นักดนตรี เพราะหากมีปัญหาหรือขัดข้องใดๆ จะได้ติดต่อสื่อสารกันได้ง่าย และอย่าลืมขอเบอร์โทรของนักดนตรีไว้
สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่คู่บ่าวสาวควรจะบอกกับนักดนตรีก่อนถึงวันงานแต่งจริงๆ เพื่อที่นักดนตรีจะได้เตรียมตัวให้พร้อมและสามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาร่วมงานได้ดี นอกจากนี้หากมีอะไรเพิ่มเติมก็ควรบอกแก่นักดนตรีตั้งแต่เนิ่นๆ